ByYourSideForLife_Logo_v2_-02 (1).svg

ร่างพัง หมดพลังทางเพศ ถึงเวลาเติมฮอร์โมนเพศชาย

ฮอร์โมนเทสโทสเทอโรน (Testosterone) หรือฮอร์โมนพลังหนุ่ม ช่วยให้ผู้ชายมีแรง มีกล้าม อารมณ์ดี และมีสุขภาพทางเพศที่ดี แต่...เมื่ออายุเข้า 30 ปี ร่างกายจะเริ่มผลิตฮอร์โมนนี้ลดลงประมาณปีละ 1-2% และเมื่อเรามีอายุ 45 ปีขึ้นไป ปริมาณฮอร์โมนเพศชาย ของบางคนอาจลดลงอย่างมาก จนทำให้อาการพร่องฮอร์โมน สามารถเห็นได้ชัดขึ้น เช่น

  • นอนก็เยอะ แต่ตื่นมาก็ยังเพลีย
  • กินเท่าเดิม แต่พุงมาเฉยเลย
  • ใจอยากลุย แต่ร่างกายบอกไม่ไหว
  • รู้สึกซึมเศร้า
  • มีอาการหงุดหงิด รู้สึกไม่ถูกใจ ไปทุกอย่าง
  • หรือแม้แต่เรื่องบนเตียง… ก็ไม่คึกคักเหมือนเดิม ความต้องการทางเพศลดลง อวัยวะเพศไม่แข็งตัว จนอาจทำให้ผู้ชายบางคนถึงขั้นหมดความมั่นใจ

เราหลายคน อาจจะเข้าใจว่าเป็นอาการที่เกิดขึ้นตามวัย ตามอายุที่มากขึ้น แต่สิ่งเหล่านี้ เป็นสัญญาณบ่งบอกว่า  
ร่างกายของเรากำลัง “พร่องฮอร์โมนเพศชาย” ด้วยพฤติกรรม รูปแบบการใช้ชีวิต ของคนยุคใหม่  
ทำให้เกิดอาการพร่องฮอร์โมนได้ไวขึ้นกว่า การใช้ชีวิตของคนยุคก่อน เพราะเราใช้ร่างกายจนพัง เช่น นอนน้อย,  
มีความเครียดสูง จากความกดดันในชีวิต หรือการทานอาหารที่อร่อยแต่อาจจะไม่ได้มีประโยชน์ต่อร่างกาย ถึงเวลาแล้ว ที่เราต้องลุกขึ้นมาปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้ชีวิต เช่น

  • ออกกำลังกายสม่ำเสมอ ทั้งเวท และคาร์ดิโอ
  • คุมอาหาร ลดแป้ง ลดน้ำตาล เน้นโปรตีนดีๆ
  • งดเหล้า-บุหรี่ ตัวการที่ทำให้ฮอร์โมนลดต่ำลง
  • ลดความเครียด ฝึกปรับอารมณ์ให้สมดุล มองโลกในแง่บวก
  • นอนให้พอ 7-8 ชั่วโมง เพราะช่วงหลับลึกคือช่วงที่ร่างกายหลั่งฮอร์โมนได้ดีที่สุด

ถึงเวลาที่เราต้องเติมฮอร์โมนเพศชายให้อยู่ในระดับที่สมดุล ฮอร์โมนเทสโทสเทอโรน (Testosterone) ในผู้ชายที่สุขภาพดีจะอยู่ที่ 300 ng/dL ขึ้นไป

แนวทางที่ถูกต้องในการเติมฮอร์โมนเพศชาย คือ การปรึกษาแพทย์ ตรวจเลือด และซักประวัติก่อน ซึ่งช่วงเวลาที่เหมาะสม คือ ช่วงเช้า ซึ่งเป็นช่วงที่ระดับฮอร์โมนเพศชายของเราจะขึ้นสูงที่สุด แพทย์อาจให้เรารักษาด้วยการใช้ฮอร์โมนทดแทน ซึ่งมีหลายรูปแบบ ทั้งแบบทา แบบฉีด แบบกิน โดยรูปแบบที่มีความเสี่ยงต่อผลข้างเคียงต่ำที่สุด จะเป็นฮอร์โมนทดแทน ให้รูปแบบทา ที่เป็นการทาบนผิว ให้ฮอร์โมนทดแทนธรรมชาติซึมเข้าสู่ร่างกายทางผิวหนัง เสมือนกับฮอร์โมนที่ร่างกายของเราผลิตขึ้นมาเอง และไม่ผ่านการกรองโดยตับ จึงไม่ส่งผลต่ออาการข้างเคียงที่อาจจะเกิดขึ้นในอนาคต

ข้อควรระวัง..อย่าเพิ่งรีบซื้อยาฮอร์โมนมากินเอง เพราะถ้าใช้โดยที่ยังไม่รู้ว่าร่างกายต้องการจริงมั้ย หรือใช้ในปริมาณไม่ถูกต้อง ก็อาจไปรบกวนสมดุลของร่างกายได้

 

บทความ อ้างอิงจาก นพ.จิรวีร์ จัทรานุกุล : ศัลยแพทย์ยูโร

(A1).png