ใช้ฮอร์โมน เสี่ยงมะเร็ง จริงมั้ย?
หลายคนอยากลองใช้ฮอร์โมนทดแทน แต่ก็กลัวว่าจะทำให้เป็นมะเร็ง หรือทำให้ต่อมลูกหมากโต
ก็เลยยอมอดทนแม้อยู่ในภาวะพร่องฮอร์โมนเพศชาย ที่..
- แรงตก หมดพลัง
- ขาดความกระตือรือร้น
- และที่สำคัญ…หมดความสุขบนเตียงไปเลย
ผู้ชายหลายคนมีภาวะพร่องฮอร์โมนเพศชาย ทำให้พลังงานลดลง และที่กระทบต่อคุณภาพชีวิตหลายๆ ด้าน
ฮอร์โมนทดแทนเลยถูกคิดค้นขึ้นมาเพื่อช่วยแก้ปัญหานี้
แล้วจริงๆ เราควรใช้ฮอร์โมนทดแทนหรือไม่...?
แต่ความจริง คือ…
-ไม่มีหลักฐานว่าคนที่เป็นมะเร็งต่อมลูกหมากมีฮอร์โมนเพศชายสูงกว่าคนปกติหรือคนสูงวัย
-ไม่มีงานวิจัยใดยืนยันว่า "ฮอร์โมนเพศชาย" ทำให้เกิดมะเร็งต่อมลูกหมาก
แล้วทำไมถึงมีคำเตือนเรื่องนี้หล่ะ
เพราะ..ถ้าผู้ป่วยเป็นมะเร็งต่อมลูกหมากอยู่ แล้วมาใช้ฮอร์โมนทดแทน ก็อาจกระตุ้นให้โรคลุกลามได้
ดังนั้นเราก็ต้องเช็ก 3 ชั้น ตรวจให้ชัวร์ เพื่อคุณจะใช้ฮอร์โมนทดแทนได้อย่างปลอดภัย
ชั้นที่ 1 ตรวจเลือด เช็คค่า PSA (Prostate-Specific Antigen)
ชั้นที่ 2 ตรวจคลำต่อมลูกหมากทางทวารหนัก (DRE)
ชั้นที่ 3 ตรวจติดตามผลเป็นระยะ หลังรับฮอร์โมน
ซึ่งถ้าผลตรวจเป็นปกติ ก็หมายความว่า พวกเราสามารถใช้ฮอร์โมนทดแทนได้ โดยไม่มีความเสี่ยงเพิ่มขึ้น*
ข้อมูลสำคัญเพิ่มเติม..
- ฮอร์โมนทดแทนรูปแบบเจลทา เป็นตัวเลือกที่ ปลอดภัยต่อหัวใจและหลอดเลือด ช่วยเพิ่มความต้องการทางเพศ และไม่มีหลักฐานว่าทำให้เกิดมะเร็งต่อมลูกหมาก
- จากการศึกษายืนยันว่า ฮอร์โมนทดแทนรูปแบบเจลทา ไม่เพิ่มความเสี่ยงโรคหัวใจและ ไม่มีความแตกต่างจากยาหลอกในแง่ของมะเร็งต่อมลูกหมาก
แต่.. ยังต้องเฝ้าระวังเรื่อง ลิ่มเลือดดำอุดตันที่ปอด และอุบัติการณ์กระดูกหักเพิ่มขึ้น ซึ่งตรงนี้ยังไม่มีคำอธิบายที่แน่ชัด
ดังนั้น… ถ้าต้องการใช้ฮอร์โมนทดแทน เพื่อปรับสมดุลฮอร์โมนของเรา ก็แค่ต้องตรวจสุขภาพให้ชัวร์ก่อน แล้วก็อย่าเชื่อแค่ข่าวลือ หรือปะติดปะต่อข้อมูลเอง มาปรึกษาแพทย์ก่อนตัดสินใจเริ่มใช้ฮอร์โมนทดแทนธรรมชาติ
บทความ อ้างอิงจาก นพ.กริช ออประเสริฐ : ศัลยแพทย์ยูโร
